ขั้นตอนการขอพระราชทาน
๑. การขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ
เจ้าภาพหรือทายาท จะต้องจัดดอกไม้กระทง ๑ กระทง ธูปไม้ระกำ ๑ ดอก เทียน ๑ เล่ม
มีพานรองพร้อม ไปกราบถวายบังคมทูลลา โดยติดต่อที่กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง(โทร. ๐-๒๒๒๑-๐๘๔๓ ๐-๒๒๒-๒๗๓๕) พร้อมทั้งนำใบมรณบัตร และหลักฐานที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดที่ได้รับ(พร้อมสำเนาอย่างละ ๑ ชุด)
ไปแสดงแก่เจ้าหน้าที่ เพื่อการจัดเตรียมเครื่องเกียรติยศประกอบศพได้ถูกต้อง
ส่วนพระสงฆ์สมณศักดิ์ ไม่ต้องมีดอกไม้ธูปเทียน เป็นหน้าที่ของกรมศาสนาแจ้งการมรณภาพ และขอพระราชทาน
ตัวอย่างหนังสือกราบบังคมทูลลา
วันที่..............เดือน................................พ.ศ..............
ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม
ดอกไม้ธูปเทียนของข้าพระพุทธเจ้า...............(ชื่อผู้ถึงแก่กรรม)...................................
เครื่องราชอิสริยาภรณ์........................................................อายุ...................ปี ข้าราชการ ................
ชั้น....................................................สังกัด..................................................
ขอพระราชทานกราบถวายบังคมลา(ถึงแก่กรรม,ถึงแก่อนิจกรรม,ถึงแก่อสัญกรรม)
ด้วยโรค.........................................................ที่.................................อำเภอ......................................
จังหวัด...........................................เมื่อวันที่..............เดือน................................พ.ศ........................
เวลา............................น.
ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
หมายเหตุ หนังสือกราบบังคมทูลลานี้ ไม่ต้องลงนามท้ายหนังสือ
๒. การขอพระราชทานเพลิงศพ
๒.๑ การขอพระราชทานเพลิงศพ
เจ้าภาพหรือทายาท ผู้ประสงค์จะขอพระราชทานเพลิงศพ จะต้องทำหนังสือแจ้งไปยังกระทรวงเจ้าสังกัดของผู้ถึงแก่กรรม เพื่อให้เจ้าสังกัดทำเรื่องเสนอเลขาธิการพระราชวัง โดยระบุ
ก. ชื่อ ตำแหน่ง ชั้น ยศ ของผู้ถึงแก่กรรม
ข. ถึงแก่กรรมด้วยโรคอะไร ที่ไหน เมื่อใด
ค. ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อะไรบ้าง
ง. มีความประสงค์จะขอรับพระราชทานเครื่องเกียรติยศประกอบศพอย่างใดบ้าง
จ. ประกอบการฌาปนกิจศพที่วัดไหน จังหวัดไหน วันเวลาใด
กรณีเป็นข้าราชการสังกัดหน่วยงานในมหาวิทยาลัยมหิดล ให้เจ้าภาพหรือทายาททำหนังสือแจ้งหน่วยงานต้นสังกัด(คณะ/สถาบัน/ศูนย์/สำนัก/วิทยาลัย/กอง) และให้หน่วยงานทำหนังสือแจ้งมหาวิทยาลัย พร้อมหนังสือเสนอเลขาธิการพระราชวัง(จัดพิมพ์และแนบพร้อมหนังสือแจ้งมหาวิทยาลัย / ฉบับจริง ๑ สำเนา ๒ ชุด)
การขอพระราชทานเพลิงศพ:ตัวอย่างหนังสือจากหน่วยงาน
คณะ.......................................
มหาวิทยาลัยมหิดล
ที่ ศธ ๐๕๑๗.0000/
วันที่……………………….
เรื่อง…ขอพระราชทานเพลิงศพ.
เรียน อธิการบดี
ด้วย.....................................................................(ระบุ ชั้นเครื่องราชอิสริยาภรณ์)) ข้าราชการพลเรือน ในสถาบันอุดมศึกษา ตำแหน่ง..........................................................คณะ............................................... . ได้ถึงแก่กรรมด้วยสาเหตุ...............................................ณ .............................เมื่อวันที่.....................................
เจ้าภาพมีความประสงค์จะขอพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่................................เวลา......................น. ณ เมรุวัด.................................อำเภอ.................................จังหวัด...................................ซึ่งคณะ/สถาบันพิจารณาเห็นว่า นาย/นาง/นางสาว/ .....................................................เป็นผู้มีสิทธิได้รับพระราชทานเพลิงหลวง และเป็นผู้อุทิศตนเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ สมควรขอพระราชทานเพลิงศพเพื่อเป็นเกียรติยศแก่ผู้วายชนม์และวงศ์ตระกูลสืบไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง
(ลงนาม)
(...........................................)
คณบดี/ผู้อำนวยการ คณะ/สถาบัน
การขอพระราชทานเพลิงศพ:ตัวอย่างหนังสือเสนอสำนักพระราชวัง
มหาวิทยาลัยมหิดล
๙๙๙ ถนนพุทธมณฑลสาย ๔
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล
จังหวัดนครปฐม ๗๓๑๗๐
ที่ ศธ ๐๕๑๗/
วันที่....................................
เรื่อง ขอพระราชทานเพลิงศพ
เรียน เลขาธิการพระราชวัง
สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. สำเนาใบมรณบัตร จำนวน ๑ ฉบับ
๒. สำเนาทะเบียนบ้าน(ผู้ถึงแก่กรรม) จำนวน ๑ ฉบับ
๓. สำเนาบัตรข้าราชการ(ผู้ถึงแก่กรรม) จำนวน ๑ ฉบับ
ด้วย............................................................(ระบุชั้น เครื่องราชฯ) ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ตำแหน่ง.......................................ระดับ.................คณะ/สถาบัน...........................
ได้ถึงแก่กรรมด้วยสาเหตุ...............................................ที่..................................เมื่อวันที่......................
และทางเจ้าภาพมีความประสงค์จะขอพระราชทานเพลิงศพ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้วายชนม์และวงศ์ตระกูล ในวัน...........ที่..............เดือน...........................พ.ศ.........................เวลา...................น. ณ เมรุวัด.......................................อำเภอ/เขต.....................................จังหวัด.................................
มหาวิทยาลัยมหิดลพิจารณาแล้วเห็นว่า.........................................................เป็นผู้มีความขยันหมั่นเพียร ซื่อสัตย์สุจริตและประกอบคุณงามความดีเสมอมา และอุทิศตนให้แก่วิชาชีพอย่างเต็มที่ สมควรขอพระราชทานเพลิงศพ.......................................................เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้วายชนม์และวงศ์ตระกูลสืบไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง
ขอแสดงความนับถือ
กองบริหารงานทั่วไป
โทร. ๐-๒๘๔๙-๖๐๑๑ , ๐-๒๓๕๔-๐๙๙๙
โทรสาร ๐-๒๘๔๙-๖๐๐๙
๒.๒ การขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
เจ้าภาพหรือทายาท ผู้ประสงค์จะขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ต้องทำหนังสือถึงเลขาธิการพระราชวัง โดยระบุ
ก. ชื่อ-สกุล และประวัติโดยย่อของผู้ถึงแก่กรรม
ข. ถึงแก่กรรมด้วยโรคอะไร ที่ไหน เมื่อใด
ค. ระบุคุณงามความดีที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ หรือคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์การพิจารณาการขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
ง. ระบุ วัน เวลา สถานที่ที่จะประกอบการฌาปนกิจศพ
กรณีผู้ถึงแก่กรรม เป็นบิดาหรือมารดา ของข้าราชการ(ตามหลักเกณฑ์ ข้อ ๗ หรือ ข้อ ๘ ) สังกัดหน่วยงานในมหาวิทยาลัยมหิดล ให้เจ้าภาพหรือทายาททำหนังสือแจ้งหน่วยงานต้นสังกัด(คณะ/สถาบัน/ศูนย์/สำนัก /วิทยาลัย/กอง) และให้หน่วยงานทำหนังสือแจ้งมหาวิทยาลัย พร้อมหนังสือเสนอเลขาธิการพระราชวัง(จัดพิมพ์และแนบพร้อมหนังสือแจ้งมหาวิทยาลัย / ฉบับจริง ๑ สำเนา ๒ ชุด)
หรือ ทำหนังสือถึงเลขาธิการพระราชวังโดยตรง ก็ได้
การขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ:ตัวอย่างหนังสือจากหน่วยงาน
คณะ.......................................
มหาวิทยาลัยมหิดล
ที่ ศธ ๐๕๑๗/
วันที่................................................
เรื่อง ขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
เรียน อธิการบดี
ด้วย....................................................................(ระบุ ชั้นเครื่องราชฯ) ข้าราชการพลเรือนในสถาบัน อุดมศึกษา ตำแหน่ง............................................ระดับ...................คณะ............................................... ............. แจ้งว่า นาย/นาง...............................................................ผู้เป็น บิดา/มารดา ได้ถึงแก่กรรมด้วยสาเหตุ...................................... ที่................................................เมื่อวันที่.....................................
เจ้าภาพมีความประสงค์จะขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ในวันที่..........................................เวลา......................น. ณ เมรุวัด.................................อำเภอ.................................จังหวัด...................................ซึ่งคณะ/สถาบัน พิจารณาเห็นว่า บิดา/มารดา ของ นาย/นาง/นางสาว/ ...........................................................เป็นผู้สมควรได้รับการพิจารณาในการขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง
(ลงนาม)
(...........................................)
คณบดี/ผู้อำนวยการ คณะ/สถาบัน
การขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ:ตัวอย่างหนังสือเสนอสำนักพระราชวัง
มหาวิทยาลัยมหิดล
๙๙๙ ถนนพุทธมณฑลสาย ๔
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล
จังหวัดนครปฐม ๗๓๑๗๐
โทร. ๐-๒๘๔๙-๖๐๑๐
โทรสาร ๐-๒๘๔๙-๖๐๐๙
ที่ ศธ ๐๕๑๗/
วันที่..................................................
รื่อง ขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
เรียน เลขาธิการพระราชวัง
สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. สำเนาใบมรณบัตร จำนวน ๑ ฉบับ
๒. สำเนาทะเบียนบ้าน(ผู้ถึงแก่กรรม/ทายาท) จำนวน ๒ ฉบับ
๓. สำเนาบัตรประจำตัว(ผู้ถึงแก่กรรม) จำนวน ๑ ฉบับ
๔. สำเนาบัตรข้าราชการ(ทายาท) จำนวน ๑ ฉบับ
ด้วย............................................................(ระบุ ชั้นเครื่องราชฯ) ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ตำแหน่ง.......................................ระดับ.................คณะ/สถาบัน...........................
แจ้งว่า นาย/นาง....................................................ผู้เป็นบิดา/มารดา ได้ถึงแก่กรรมด้วยสาเหตุ.............
ที่..................................เมื่อวันที่............................................เจ้าภาพซึ่งเป็นบุตร/บุตรี มีความประสงค์
จะขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นเกียรติ แก่นาย/นาง................................................ ผู้เป็นบิดา/มารดา และวงศ์ตระกูล ในวัน...........ที่..............เดือน.................................พ.ศ...................เวลา.............น. ณ เมรุวัด.......................................อำเภอ/เขต......................จังหวัด.......................
มหาวิทยาลัยมหิดลพิจารณาแล้วเห็นว่า..........................................................เป็นผู้มีความขยันหมั่นเพียร ซื่อสัตย์สุจริตและประกอบคุณงามความดีเสมอมา ตลอดจนเป็นผู้มีความกตัญญูกตเวที ต่อบิดามารดา สมควรขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ นาย/นาง .............................................. เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้วายชนม์และวงศ์ตระกูลสืบไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง
ขอแสดงความนับถือ
การขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ: (กรณีทายาทเสนอเองโดยตรง)
ที่อยู่...................................................
...................................................
วันที่..................................................
เรื่อง ขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
เรียน เลขาธิการพระราชวัง
สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. สำเนาใบมรณบัตร จำนวน ๑ ฉบับ
๒. สำเนาทะเบียนบ้าน(ผู้ขอหรือทายาท) จำนวน ๑ ฉบับ
๓. สำเนาบัตรประจำตัว(ผู้ขอหรือทายาท) จำนวน ๑ ฉบับ
ด้วยข้าพเจ้า............................................................ ตำแหน่ง............................................สังกัด...........................................................จะทำการฌาปนกิจศพ........................................................
ผู้เป็นบิดา/มารดา ซึ่งถึงแก่กรรมด้วยโรค...........................................ณ...............................................
เมื่อวันที่..............เดือน..............................พ.ศ.......................ณ เมรุวัด................................................ในวัน....................เดือน....................................พ.ศ........................เวลา.....................น.
ขณะที่..........................................................................ผู้เป็นบิดา/มารดา ยังมีชีวิตอยู่ ได้ประกอบคุณงามความดีอย่างมาก ได้อบรมสั่งสอนบุตร-ธิดา ให้รู้จักรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์เสมอมา ทั้งยังได้ให้การศึกษาแก่บุตร-ธิดาเป็นอย่างดี จนได้รับราชการเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและราชการเป็นอย่างมาก
บุตร-ธิดา มีความอาลัยรัก กตัญญู และสำนึกในหน้าที่ที่มีต่อผู้บังเกิดเกล้า จึงกราบเรียนมาเพื่อขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นเกียรติแก่.................................................ผู้เป็นบิดา/มารดา และวงศ์ตระกูลสืบไป
ขอได้โปรดนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท การจะควรประการใดแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ขอแสดงความนับถือ
โทร. ..........................................
โทรสาร ..................................
หมายเหตุ ต้องนำเอกสารต้นฉบับและสำเนาแนบมาพร้อมกับหนังสือด้วย
บัตรประจำตัวหมายถึง บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรข้าราชการ
๒.๓ การติดต่อวัดเพื่อเตรียมการพระราชทานเพลิงศพ
การพระราชทานเพลิงศพนั้น จะต้องไม่ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และวันเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ พระราชพิธีฉัตรมงคล (และตามประเพณีนิยม ไม่มีการเผาศพในวันศุกร์)
การพระราชทานเพลิงศพที่เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส หากมีพระราชประสงค์ที่จะทรงกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงศพตรงกับวันที่มีผู้ขอรายใดกำหนดไว้แล้ว เจ้าภาพผู้ขอนั้นจะต้องเลื่อนไปโดยไม่มีข้อแม้ทั้งสิ้น
๒.๔ การพระราชทานเพลิงศพในต่างจังหวัด/ในกรุงเทพมหานคร /เครื่องประกอบเกียรติยศ
ผู้มีสิทธิได้รับพระราชทานเพลิง ถ้าพระราชทานเพลิงศพในต่างจังหวัด ทางสำนักพระราชวังจะได้จัดหีบเพลิงให้เจ้าสังกัดหรือเจ้าภาพรับไปปฏิบัติ
กรณีพระราชทานเพลิงในกรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑลใกล้กรุงเทพฯ ในระยะทางไม่เกิน ๕๐ กม. สำนักพระราชวังจะจัดเจ้าพนักงานเชิญเพลิงหลวงไปพระราชทาน โดยรถยนต์หลวง ทั้งนี้ เจ้าภาพไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
สำหรับเครื่องประกอบเกียรติยศ ได้แก่ หีบ โกศ ฉัตรตั้ง นั้น ทางสำนักพระราชวังจะได้เชิญไปประกอบและแต่งตั้งไว้มีกำหนด ๗ วัน เมื่อพ้นไปแล้ว เจ้าภาพหรือทายาทยังไม่กำหนดพระราชทาน เพลิง ถ้าทางราชการมีความจำเป็น ก็จะถอนส่วนประกอบลองนอกของหีบ โกศ ไปใช้ในราชการต่อไป
กรณีข้าราชการพลเรือนตั้งแต่ ระดับ ๓ ขึ้นไป หรือผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เบญจมาภรณ์ช้างเผือก/มงกุฎไทย/เบญจมดิเรกคุณาภรณ์
เครื่องเกียรติยศที่ได้รับพระราชทาน เมื่อสิ้นชีวิต น้ำหลวง,หีบเชิงชาย
เครื่องเกียรติยศที่ได้รับพระราชทาน เมื่อพระราชทานเพลิง เพลิงหลวง
๒.๕ ข้อแนะนำการปฏิบัติเกี่ยวกับการพระราชทานหีบเพลิง ไปพระราชทานเพลิงศพยังต่างจังหวัด
(ระยะทางห่างจากสำนักพระราชวังเกิน ๕๐ กิโลเมตร)
ตามระเบียบที่สำนักพระราชวังได้วางไว้ เมื่อกระทรวงเจ้าสังกัด ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือเจ้าภาพ แล้วแต่กรณี ได้มีหนังสือแจ้งมายังสำนักพระราชวัง เพื่อขอพระราชทานเพลิงศพ หากศพนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับพระราชทานเพลิง สำนักพระราชวังจะได้มีหมายรับสั่งแจ้งให้เจ้าภาพเพื่อทราบจากนั้น เจ้าภาพหรือเจ้าหน้าที่ของจังหวัดแล้ว แต่กรณี ไปขอรับหีบเพลิงพระราชทาน ได้ที่ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง เมื่อได้รับหีบเพลิงพระราชทานไปแล้ว ต้องปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้
๑. เชิญหีบเพลิงพระราชทานไปวางไว้ที่ศาลากลางจังหวัด อำเภอ หน่วยราชการที่สังกัดในท้องที่ หรือที่บ้านเจ้าภาพแล้วแต่กรณี โดยตั้งไว้ที่อันสมควร และมีพานรองรับหีบเพลิงพระราชทานนั้น ด้วย
๒. เมื่อถึงกำหนดวันที่ขอพระราชทานเพลิงศพ ทางจังหวัด อำเภอหรือเจ้าภาพแล้วแต่กรณี จะต้องจัดบุคคลที่รับราชการแต่งเครื่องแบบปกติขาวไว้ทุกข์ เพื่อเชิญหีบเพลพระราชทานพร้อมด้วยพานรอง(หนึ่งหีบต่อหนึ่งคน) ไปยังเมรุที่จะประกอบพิธี และก่อนที่จะเชิญขึ้นไปตั้งบนเมรุนั้น ควรยกศพขึ้นตั้งเมรุเรียบร้อยเสียก่อน แล้วจึงเชิญพานหีบเพลิงพระราชทาน ขึ้นไปตั้งไว้บนโต๊ะทางด้านศีรษะศพ (บนโต๊ะที่ตั้งหีบเพลิงพระราชทานนั้น จะต้องมีผ้าปูให้เรียบร้อยและห้ามมิให้นำสิ่งหนึ่งสิ่งใดวางร่วมอยู่ด้วยเป็นอันขาด) เมื่อเชิญพานหีบเพลิงพระราชทานวางเรียบร้อยแล้ว ให้ผู้เชิญคำนับเคารพศพหนึ่งครั้ง แล้วจึงลงจากเมรุ
๓. ขณะที่เชิญพานหีบเพลิงพระราชทานไปนั้น ผู้เชิญจะต้องระมัดระวังกิริยาโดยอยู่ในอาการสำรวม ไม่พูดคุยกับผู้ใด ไม่ต้องทำความเคารพผู้ใด และไม่เชิญหีบเพลิงพระราชทานตามหลังผู้ใดเป็นอันขาด
๔. ระหว่างที่การเชิญหีบเพลิงพระราชทานไปสู่เมรุนั้น ประชาชนที่มาร่วมงานควรนั่งอยู่ในความสงบโดยมิต้องยืนขึ้น ไม่ต้องทำความเคารพและไม่มีการบรรเลงเพลงอย่างใดทั้งสิ้น เพราะยังไม่ถึงขั้นตอนของพิธีการ ผู้เชิญมิใช่ผู้แทนพระองค์ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย
๕. ผู้ที่ตั้งแถวรอรับการเชิญหีบเพลิงพระราชทานไปสู่เมรุ ควรเป็นเจ้าภาพงาน การแต่งกายควรแต่งกายไว้ทุกข์ตามประเพณีนิยม ในกรณีที่เป็นข้าราชการแต่งเครื่องแบบปกติขาวไว้ทุกข์
ผู้ที่ไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ ทั้งประชาชนและข้าราชการ รวมทั้งพนักงาน ลูกจ้าง รัฐวิสาหกิจ ควรแต่งกายไว้ทุกข์ตามประเพณีนิยม ส่วนบุตรหลาน หรือญาติ รวมทั้งผู้ที่เคารพนับถือผู้วายชนม์ที่รับราชการ จะแต่งเครื่องแบบปกติขาวไว้ทุกข์ก็จะเป็นเกียรติแก่ผู้วายชนม์และยังนับว่าเป็นการถวายพระเกียรติ
๖. เมื่อถึงกำหนดเวลาพระราชทานเพลิงศพ ให้เจ้าภาพเชิญแขกผู้มีอาวุโสสูงสุดในที่นั้น
ขึ้นเป็นประธานประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ(ผู้มีอาวุโสนั้น หมายถึง อาวุโสทั้งด้านคุณวุฒิและด้านวัยวุฒิ ทั้งนี้ หากมีพระราชวงศ์ตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไป หรือราชสกุลที่มีเกียรติในราชการ ซึ่งผู้วายชนม์หรือทายาทอยู่ใต้บังคับบัญชา หรือเป็นผู้ที่เคารพนับถือ สมควรเชิญบุคคลนั้น เป็นประธาน)
๗. ในระยะเวลาก่อนเจ้าภาพเชิญผู้มีอาวุโสสูงสุดขึ้นเป็นประธานประกอบพิธี พระราช
ทานเพลิงนั้น ให้ผู้ที่เชิญหีบเพลิงพระราชทานขึ้นไปรออยู่ ณ โต๊ะวางหีบเพลิงพระราชทานบนเมรุก่อน เมื่อผู้เป็นประธานทอดผ้าไตรบังสุกุล และพระภิกษุได้ชักผ้าบังสุกุลแล้ว ให้ผู้เชิญหีบเพลิงพระราชทานแก้ห่อหีบเพลิงพระราชทานออก
จากนั้น ผู้เป็นประธานปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เปิดฝาหีบเพลิงพระราชทาน
- หยิบเทียนชนวนในหีบเพลิงพระราชทานมอบให้ผู้ที่เชิญหีบเพลิงพระราชทานถือไว้
- หยิบกลักไม้ขีดในหีบเพลิงพระราชทานจุดไฟต่อเทียนชนวน ที่ผู้ที่เชิญหีบเพลิงพระราชทานถือไว้ รอจนเทียนลุกไหม้ดีแล้ว
- ถวายบังคม(ไหว้) หนึ่งครั้ง ก่อนหยิบธูป ดอกไม้จันทน์ และเทียนพระราชทาน(จำนวน ๑ ชุด) ในหีบเพลิงพระราชทาน จุดไฟหลวงจากเทียนชนวนแล้ววางไว้ใต้กลางฐานที่ตั้งศพ จากนั้นก้าวเท้าถอยหลังหนึ่งก้าว คำนับเคารพศพหนึ่งครั้งแล้วลงจากเมรุ เป็นอันเสร็จพิธี
หมายเหตุ ๑. สำหรับศพที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานผ้าไตรทอดถวายพระบังสุกุล
ด้วยนั้น ผู้เป็นประธานต้องถวายความเคารพ(ไหว้)หนึ่งครั้ง ก่อนหยิบผ้าจากเจ้า
หน้าที่ผู้เชิญ แล้วทอดผ้าตามพิธีต่อไป
๒. ในกรณีที่เจ้าภาพประสงค์ให้มีการอ่าน หมายรับสั่ง เพื่อแสดงถึงการได้รับ
พระราชทานเพลิงศพ ประวัติผู้วายชนม์ เพื่อประกาศเกียรติคุณและคำสำนึกใน
พระมหากรุณาธิคุณ ในงานพระราชทานเพลิงศพนั้น ให้อ่านเรียงลำดับตามที่
กล่าวมา ทั้งนี้ หากจะอ่านเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่อ่านเลยก็ได้ ขึ้นอยู่
กับความประสงค์และความสะดวกของเจ้าภาพเป็นสำคัญ ส่วนการลงท้ายคำ
อ่าน สามารถอ่านชื่อบุคคลผู้เป็นทายาททั้งหมดหรือจะออกชื่อแต่เจ้าภาพก็ย่อม
กระทำได้
๓. ทางสำนักพระราชวังได้ออกคำสั่ง ห้ามเจ้าหน้าที่ของสำนักพระราชวัง
เชิญหีบเพลิงไปปฏิบัติ
Comments